เวลาถ่ายภาพจังหวะที่ใช้ตาของเรามองไปในวิวไฟเดอร์ เรามักจะเหลือตาอีกข้างหนึ่งเอาไว้ เฉยๆ บ้างก็ลืมบ้างบ้างก็หรี่ตา
90% ของช่างภาพมักจะหรี่ตาหยีตา
มันไม่ผิดนะแต่มันทำให้เราพลาดอะไรดีๆ ไปแบบไม่รู้ตัว
อันดับแรกหน้าเราจะเหี่ยวเร็วขึ้น
ไม่เชื่องั้นลองทำตามดูสิ พอหรี่ตาปุ๊บปากเราจะเบี้ยวตามไปด้วย
และยิ่งจังหวะที่ต้องลุ้นถ่ายภาพสำคัญๆ นะ ที่ลุ้นกันแบบเยี่ยวเหนียว รับรองได้ว่าปากจะเบี้ยวหนักเข้าไป
ทีนี้ลองทดลองลืมตาอีกข้างดูบ้าง
นอกจากหน้าไม่เหี่ยวเรายังสามารถใช้ตาข้างนี้เหลือบมองรอบข้างอีกว่าเกิดเหตุการณ์อะไรบ้าง
หากเราจะไม่ปิดหูปิดตาตัวเอง โอกาสที่เราจะได้ภาพจะมีมากกว่า
เพราะเราจะเห็นว่ารอบข้างที่ตาอีกข้างหนึ่งมองเห็น ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้างเรา
ก็จะคำนวณในหัวว่าเราควรหันกลับไปถ่ายมุมนั้นหรือว่าจะถ่ายจุดเดิมดีกว่ากัน
การปิดหูปิดตาของเราด้วยการหรี่ตาอีกข้างหนึ่งเป็นผลร้ายสำคัญสำหรับการถ่ายภาพในงานอีเวนท์เป็นอย่างยิ่ง
แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เราก็ไม่ควรมองข้าม
อุปสรรคเล็กๆ หากมันรวมตัวกันหลายๆอย่างมันย่อมก่อเกิดปัญหาใหญ่ตามมาได้
การล่าภาพในเสี้ยววินาทีย่อมไม่ควรให้มีอุปสรรคใดมาขวางกั้น
หากคิดว่าแค่นี้คงไม่มีปัญหาอะไร ลองกลับไปคิดซะใหม่นะ ความประมาทย่อมก่อเกิดหายนะได้ในไม่ช้า
ความรอบคอบทำให้ป้าชูก้าวข้ามจนมาถึงวันนี้ หากน้องๆ ไม่อยากพลาดโอกาสการเติบโต จงอย่าละเลยการพัฒนาตัวเองนะครับ
วันนี้น้องๆ อาจจะไม่ถนัดกับการลืมตาลองฝึกลืมตาดูสิครับ
แล้วจะรู้ว่าเราจะถ่ายภาพในงานสำคัญๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอนครับพี่น้อง