Skip to main content

ย้อนไปเมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว

ป้าชูต้องขอขอบคุณชุดปฏิบัติการฝนหลวงนักวิชาการและเจ้าหน้าที่ทุกท่านโดยเฉพาะพี่หนุ่ม พต.ภูมินทร อรรถีโสตร รวมถึงพี่ๆน้องๆชมรมนักถ่ายภาพอากาศยานจันทบุรี
นำทีมโดยพี่เล็กอ.อู๊ดและน้องกฤต ที่ทุกท่านให้เกียรติป้าชูได้ร่วมภารกิจฝนหลวงด้วยกัน

เช้ามืดวันที่ 5 เดือน5 ปี55 เวลาตี 5 ป้าชูและทีมงานออกเดินทางมุ่งหน้าจันทบุรี ฝนตกตลอดการเดินทาง ถึงที่หมายเวลา 9.00 น.

อีกไม่นานก็ได้สมทบกับน้องโอ ผู้โชคดีที่ได้เข้าร่วมภารกิจครั้งนี้จากการตอบปัญหาครั้งก่อน

พวกเรานั่งรอพร้อมทีมนักบินและนักวิชาการ ฝนยังคงตกหนักและเบาสลับกันตลอดเวลา มีช่วงที่หยุดบ้างไม่เกิน 20 นาทีก็ตกอีก

พี่โอ๋หัวหน้าทีมนักวิชาการเช็คจากเรดาห์แล้วพื้นที่เป้าหมายฝนกลับไม่ตกเลยซักเม็ด และโชคดีที่เมฆมีปริมาณมากพอที่จะทำการโจมตีเพื่อให้ฝนหลวงตกลงยังเป้าหมายได้

กัปตันหนุ่มนำพวกเราทุกคนเข้าสำรวจพื้นที่รันเวย์ของสนามบินทันทีเพื่อตรวจความพร้อมของสนามว่าจะนำเครื่องขึ้นบินและลงจอดได้หรือไม่

ด้วยสนามบินที่นี่เป็นดินลูกรัง ภาพที่เราเห็นคือสนามเต็มไปด้วยน้ำ พวกเราต้องรอให้สนามแห้งก่อนถึงขึ้นบินได้

เราต้องรอครับ เรารอถึงช่วงบ่ายในขณะที่นักวิชาการและนักบินประชุมเครียดวางแผนการบินครั้งนี้

ป้าชูและทีมงานตัดสินใจลุยฝนเข้าบันทึกภาพขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ก่อนนำเครื่องขึ้นบินท่ามกลางสายฝน

เปียกเต็มๆครับแต่ถ้าไม่บันทึกภาพไว้เราจะไม่รู้กันเลยว่าการทำฝนหลวงแต่ละครั้งนั้นยากลำบากเพียงไหน

ในขณะที่บันทึกภาพอยู่นั้นก็ได้รับข่าวว่า ภารกิจในวันนี้ต้องยกเลิกเนื่องจากกลุ่มเมฆเดิมที่ลอยอยู่ในเป้าหมายได้สลายตัวขนาดไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติการ

แต่ที่สนามบินฝนกลับตกหนักกว่าเดิม พวกเราต้องรอวันรุ่งขึ้นเพื่อปฏิบัติการอีกครั้ง

แต่ด้วยความมุทะลุ ที่อยากจะบันทึกภาพเก็บไว้ ทำให้งานเสียหาย ป้าชูกลับไม่สบายเป็นไข้ จึงต้องขอตัวกลับกรุงเทพ

ภารกิจครั้งจึงไม่สำเร็จ หากป้าชูใจเย็นนั่งรอเฉยๆไม่ลุยฝน เราคงได้เห็นภาพสวยๆในวันรุ่งขึ้น

ป้าชูต้องกราบขอโทษพี่ๆนักบินนักวิชาการ รวมถึงชมรมจากจันทบุรีและแฟนรายการทุกท่านที่ทำให้ผิดหวัง

ขอโทษจริงๆครับ ป้าชูยังคงค้างภารกิจฝนหลวงอยู่อีกไม่นานจะขึ้นไปบันทึกภาพจนกว่า photo of life ตอน นักบินของพ่อผู้ล่าเมฆ จะสำเร็จครับ