มีการ์ตูนอยู่สองเรื่องที่เป็นแรงบันดาลใจในการฝึกถ่ายภาพของป้าชู
เรื่องแรกคือก้าวแรกสู่สังเวียน จำได้ว่า มาคุโนอุจิ อยากเป็นนักมวย
รุ่นพี่บอกว่าไปฝึกชกลมแล้วคว้าใบไม้ให้ได้สิบใบเมื่อไหร่จะรับเป็นลูกศิษย์
ใครจะคิดว่าเหตุการณ์ในการ์ตูนจะเกิดขึ้นกับป้าชูจริงๆในเวลาต่อมา
พี่เอ้ พีรพันธ์ แผนดี ช่างภาพชื่อดังผู้ได้รับรางวัลช่างภาพกีฬายอดเยี่ยม
แห่งประเทศไทยหลายสมัยผู้สร้างตำนานช่างภาพไทยคนแรกที่ได้ไป
ถ่ายภาพในกีฬาโอลิมปิก 3 สมัยติดต่อกัน
ได้บอกว่าหากเราสามารถหลับตาแล้วเลื่อนจุดเลือกโฟกัสได้ตามใจ
ภายในเวลา 5 วินาทีได้เมื่อไหร่ พี่เอ้ก็จะสอนถ่ายภาพให้ รูปการณ์
เหมือนกันเป๊ะกับในการ์ตูน
โดยมีข้อตกลงว่าตลอดเวลาของการฝึกห้ามกดชัตเตอร์โดยเด็ดขาด
เลื่อนปุ่มโฟกัสอย่างเดียวเท่านั้น ต้องซื่อสัตย์ หากกดชัตเตอร์ถือว่า
ผิดสัญญา จะไม่รับเป็นศิษย์ตลอดกาล ป้าชูใช้เวลาทุกวันจับกล้อง
ใช้นิ้วและจิตสัมผัสให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แหม ยังกะหนังจีนกำลัง
ภายใน
แต่คิดแบบนั้นและทำมันทุกวันจริงๆเหมือนคนบ้า จากเลื่อนผิดเลื่อนถูก
ในช่วงแรกๆ ก็เริ่มเลื่อนได้ตามใจสั่ง จากช้ามากๆ ก็ค่อยๆเร็วขึ้นจน
วันนึงแค่ 5 วินาทีก็ทำได้ในที่สุด
เมื่อจอมยุทธทำได้ก็มิรอช้า โทรหาท่านอาจารย์ในฉับพลัน
นัดพบกันที่พันธ์ทิพย์งามวงวานในทันที
พอโชว์ฝีมือให้เห็นว่าการบ้านที่ท่านอาจารย์สั่งไว้ศิษย์ผู้นี้ทำได้
ลุล่วงเป็นอย่างดี
พี่เอ้ก็บอกว่า ไม่มีอะไรจะสอนแล้ว ถ้าทำได้ก็จบหลักสูตร
เพราะช่างภาพระดับโลกเค้าก็ทำกันแบบนี้ทุกคน ถ้าเอ็งทำได้
ที่เหลือก็แค่ถ่ายให้ได้ตามจินตนาการที่วางไว้มันแค่นั้นจริงๆ
แล้วพี่เอ้ก็ไล่กลับบ้าน เราก็กลับบ้านแบบงงๆอีกครั้ง
ฝึกแทบตายสุดท้ายสำเร็จวิชาโดยที่ไม่รู้ว่าวิชามันคืออะไร
หลังจากนั้นก็พยายามโทรถามพี่เอ้บ่อยขึ้น คำตอบที่ได้ก็คือ
ให้ไปลองถ่ายภาพจริงๆดู แล้วจะรู้ว่าที่ฝึกมามันไม่ไร้ค่าอย่าง
ที่คิด จากวันนั้นถึงวันนี้ รูปสวยๆ มากมายทุกรูปล้วนผ่าน
กระบวนการที่พี่เอ้สอนสั่งอย่างไม่บิดพลิ้ว
ทำให้ผลงานของป้าชูโดดเด่นขึ้นได้โดยไม่ยาก
หากได้ครูดีแต่ศิษย์ไม่ตั้งใจ คงยากที่จะสร้างผลงานดีๆ ขึ้นมาได้
หากได้ครูดี ศิษย์ตั้งใจและทำได้ดี แต่ศิษย์ไม่กตัญญูรู้คุณครู
ก็ยากที่จะยืนหยัดอยู่ได้นาน
ขอบคุณพี่เอ้ ครูคนแรกที่ได้สอนสั่งรวมถึงให้กำลังใจศิษย์คนนี้
ตลอดมา ขอบคุณจริงๆ ครับ